วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

Following Distance

Following Distance (เว้นให้ดี ไม่งั้น...ชน!)

หยุดไม่ทันชนท้ายเขา เขาหยุดไม่ทันชนท้ายเรา เรื่องที่ว่านี้ป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ขับรถแบบเว้นระยะกะเอาเอง ไม่เป็นไร พ้น...พ้น ซึ่งก็ไม่ได้เกิดขึ้นได้บ่อยๆ แต่ก็มีโอกาสสูงในการที่จะเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะเวลาที่มีเงื่อนไข หรือองค์ประกอบเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นต้นว่า ฝนตก ถนนลื่น ขับด้วยความเร็ว สภาพยางเสื่อม เบรกไม่ดี ง่วง ซึม มึน เมา เครียด ฯลฯ นั่นไง ไม่น่าเลย ชนจนได้... TT

การขับรถตามหลังรถคันหน้า เป็นหน้าที่ของคนขับที่จะต้องเว้นระยะห่างให้เหมาะสมกับสภาพการจราจรที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะเมื่อมีองค์ประกอบที่เป็นความเสี่ยงที่ยกตัวอย่างไว้ข้างต้นเข้ามาเกี่ยวข้อง สำหรับ พรบ.จราจรทางบก มาตรา 40 ระบุว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ห่างรถคันหน้าพอสมควรในระยะที่จะหยุดรถได้โดยปลอดภัยในเมื่อจำเป็นต้องหยุด ก็คงพอจะข้าใจได้ว่าเขาห้ามไม่ให้เราขับรถไปชนใคร และก็ห้ามไม่ให้ใครขับรถมาชนเรา ฉะนั้นการที่ขับรถไปชนเขา หรือเขาขับรถมาชนเรา คนที่เป็นฝ่ายชนก็น่าจะเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบโดนข้อหาขับรถโดยประมาทก็ได้ครับ ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามหลักฐานนั่นแหละครับ เอาเป็นว่า อย่าขับรถไปชนกันเลยจะดีกว่ามั้ยครับ

การขับรถเพื่อไม่ให้ไปชนรถคันที่อยู่ข้างหน้าในขณะที่รถแล่น นอกจากจะต้องใช้หลักสามัญสำนึกในเรื่องของความปลอภัยแล้ว การใช้เทคนิคในการทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้า (Following Distance) ก็จะช่วยให้สามารถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งเทคนิคที่ว่านี้ก็ใช้หลักง่ายๆ โดยการทิ้งระยะห่างให้เห็นล้อหลังของรถคันหน้าไว้เสมอ และถ้าสามารถทิ้งระยะห่างให้ได้ 4 วินาที อันนี้รับรองรองว่าไม่ไปชนรถคันที่อยู่ข้างหน้าแน่นอนครับ (เมื่อรถคันหน้าวิ่งผ่านจุดสังเกตที่กำหนดไว้ข้างทางเช่น เสาไฟฟ้า ต้นไม้ ฯลฯ ให้เริ่มนับ 1001 1002 1003 1004 ถ้านับได้ 1004 ในขณะที่ขับรถมาถึงตรงจุดสังเกต แสดงว่าเราทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าได้ 4 วินาที) อย่างไรก็ตามการทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าไม่ใช่กฎตายตัวครับ หากแต่ต้องนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสภาพการจราจร และองค์ประกอบที่มีการเปลี่ยนไปในขณะที่ขับรถด้วยนะครับ โดยเฉพาะเมื่อไหร่ที่ต้องใช้ความเร็ว มันเป็นระยะที่จะต้อง เว้นกันให้ดีๆ ครับ ไม่งั้น...ชน แน่นอน!

Safety Driving Training

บทความที่ได้รับความนิยม

ผู้ติดตาม