วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Checking Inside

Checking Inside (การตรวจสอบความปลอดภัย ภายในรถ)

การตรวจสอบความปลอดภัยภายในที่บริเวณพื้นรถด้านคนขับ และด้านหลังคนขับ เป็นอีกจุดหนึ่งที่เรามักจะหลงลืมและมองข้ามความปลอดภัยครั้งสำคัญนี้ไป ซึ่งก็เปรียบเหมือนระบิดเวลาที่รอคอยการระเบิดอย่างไงอย่างงั้นเลยครับ ลองคิดดูนะครับ หลังจากเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถแล้ว ทำการปลดล็อกอุปกรณ์ป้องกันการถูกขโมย คือกลัวว่าใครจะมาขโมยรถที่เรารักเป็นหนักหนานี้ไปก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ ซึ่งไอ้เจ้าอุปกรณ์อันนี้ก็จะมีขนาดและรูปร่างที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความรักของเจ้าของรถที่มีให้กับรถของเขาครับ ไม่ว่าจะเป็นแบบล็อกพวงมาลัยอย่างเดียว ล็อกเบรกอย่างเดียว หรือจะเป็นแบบที่สามารถล็อกโน่น นี่ นั่น ได้ทุกอย่าง หลังจากที่ได้ทำการปลดล็อกแล้วนี่แหละครับ ที่มักจะมีปัญหาตามมาว่า จะเอาไอ้เจ้าตัวล็อกนี้ไปวางไว้ที่ไหนดี? ซึ่งคำตอบที่ได้ส่วนใหญ่ก็คือ วางไว้ที่พื้นรถตรงคนขับนั่นแหละครับ เนื่องจากว่าเป็นที่ๆ สะดวกที่สุด แล้วไงต่อล่ะครับ คราวนี้ก็ขับรถออกไป ระหว่างที่ขับก็ธรรมดาๆ ไม่มีอะไร วิ่งบ้างหยุดบ้าง เร็วบ้างช้าบ้าง ตามสภาพการจราจรของบ้านเราครับ ที่นี้ไอ้เจ้าอุปกรณ์ป้องกันไม่ให้ใครมาเอารถที่รักของเราไปเนี่ย มันก็ไม่ยอมอยู่กับที่ คือเลื่อนไหลไปตาสภาพของการหยุดและการจอดรถในแต่ละครั้งเหมือนกันครับ ยังครับ ยังไม่ระเบิดครับ เวลายังไม่อำนวย แล้วองค์ประกอบก็ยังไม่ครบครับ ระหว่างที่เพลิดเพลินกับรถติด?? ไอ้เจ้าอุปกรณ์แสนดีของเรา มันก็ได้เคลื่อนตัวไปอยู่ที่ใต้แป้นเบรกของเราตอนไหนก็ไม่มีใครทราบ (ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครทราบครับ) เวลาและองค์ประกอบมาแล้วครับ! ถนนครับ ถนน มันเริ่มจะโล่งแล้วครับ ก็ได้จังหวะใช้ความเร็วเพื่อชดเชยกับเวลาที่สูญเสียไป แต่แล้วความจริงก็คือความจริง มันกลับมาติดอีกแล้วครับ รถครับ รถติด เรียกว่ากำลังเพลินเลย เฮ้อ! ต้องหยุดรถอีกแล้ว คราวนี้ครับ มันไม่ยอมหยุด พยายามเหยียบเบรกเท่าไหร่ รถมันก็ไม่ยอมหยุด โชคดีครับมีรถอยู่ข้างหน้า ก็เลยทำให้หยุดรถได้ อ้าว! แล้วจะโชคดียังไง ก็ลองไม่ใช่รถซิครับ จะโชคร้ายอีกกี่ต่อก็ไม่รู้ คล้ายๆ กับระเบิดเวลามั้ยครับ แต่เป็นระเบิดเวลาที่เราว่างเอาไว้เพื่อให้มันระเบิดตัวเราเองแบบไม่ได้ตั้งใจเลยครับ!

แค่หนังตัวอย่างเท่านั้นนะครับ ยังมีเรื่องจริงที่ลึกลับซับซ้อนและน่ากลัวกว่านี้เยอะครับ ใครที่ยังไม่เคยเจอก็ให้จินตนาการไปก่อนแล้วกันนะครับ แต่ก็ขอภาวนาว่าอย่าได้เจอะอย่าได้เจอเลยครับ อย่างเช่นเรื่องผ้ายางปูพื้นกั้นน้ำขอบแข็ง, ขวดน้ำของฟรีที่ปั้มให้มา, รองเท้าคู่โปรด, เบาะรองนั่งนุ่มๆ, ตุ๊กตาน่ารัก, หมอนหนุนคอ ฯลฯ อีกจิปาฐะ ที่นักขับรถที่เป็นนักสะสมด้วย มักจะเอามาวางไว้ที่พื้นรถด้านคนขับโดยมิได้ตั้งใจเสมอๆ แล้วพื้นรถด้านหลังคนขับมันเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ เกี่ยวครับ ก็ถ้ามันรอดผ่านใต้เบาะนั่งคนขับมาได้ ก็เงื่อนไขเดียวกันเลยนั่นแหละครับ ทางที่ดีก็ควรจะย้ายสัมภารกทั้งหมดไปอยู่ในที่ๆ ที่เขาควรจะอยู่กันดีกว่าครับ และถ้าเป็นไปได้ก็เอาออกจากรถไปบ้างก็ได้ครับ นอกจากจะปลอดภัยแล้ว ยังช่วยลดน้ำหนักรถเป็นการประหยัดน้ำมันอีกต่างหากนะครับ หวังว่าการตรวจสอบความปลอดภัย ภายในรถครั้งต่อไปที่จะขับรถ คงจะไม่ลืมกันนะครับ :)

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Walk Around 2

Walk Around 2 (การตรวจสอบความปลอดภัย ภายนอกบริเวณรอบรถ “ยกที่ 2”)
ตกลงได้ทำกันแล้วนะครับ ถ้าใครทำเป็นประจำอยู่แล้วก็ขอแสดงความยินดีด้วยครับ และถ้าได้ช่วยบอกต่อๆ กันไปก็ขอขอบคุณมาไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ส่วนใครที่ยังลังเลอยู่ก็ขอเอาใจช่วยให้ตัดสินใจได้ภายในเร็ววันนี้นะครับ

มาต่อกันเลยนะครับ ที่จริงเรื่องการตรวจสอบความปลอดภัย บริเวณภายนอกรอบรถมีรายละเอียดและขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติให้ได้อย่างถูกต้องและก็ต้องทำกันอย่างจริงๆจังๆกันเลยล่ะครับ โดยเฉพาะรถขององค์กร และรถยนต์สาธารณะ ลองนึกตามดูนะครับว่ารถที่ผมยกตัวอย่างมานี้จะต้องทำอะไรกันบ้าง รถจักรยาน รถจักรยานยนต์ รถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ รถบัส รถบรรทุก รถไฟ ฯลฯ แต่ที่น่าห่วงก็คือรถยนต์ส่วนบุคคลนี่แหละครับ

มันเยอะแยะและยุ่งยากไหม? ก็ต้องบอกว่ามันไม่เยอะแยะและยุ่งยากเท่าไหร่ครับ เพียงแต่เราต้องฝึกหัดทำให้ติดจนเป็นนิสัยแห่งความปลอดภัย เราก็จะไม่รู้สึกว่ามันเยอะแยะหรือยุ่งยากอะไรครับ สำหรับ “ยกที่1” ก็ได้พูดไปบ้างแล้วนะครับว่าต้องเตรียมตัวและตรวจสอบอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะสิ่งที่มันมีอยู่แต่เรามองไม่เห็นหรือว่าไม่ทันได้สังเกต ซึ่งจริงๆ ก็คือเราไม่ได้ตรวจสอบนั่นเองแหละครับ ความคิดที่ว่าไม่มีอะไรมั้ง! ไม่เป็นไรมั้ง! อันนี้เป็นปัญหาและอุปสรรคที่ต้องจัดการให้ได้ก่อนเลยนะครับ พอเราใส่ใจและให้ความสำคัญในรายละเอียดเราก็จะมั่นใจถึงความปลอดภัยได้แบบ 100 % เลยล่ะครับ สำหรับใครจะเดินวนรอบไหนก่อนอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบครับ จะวนซ้าย จะวนขวา จะ 1 รอบ 2 รอบ 3 รอบ ไม่ว่ากันครับ ระหว่างที่ตรวจสอบหาสิ่งของและสิ่งมีชีวิต ก็ให้ตรวจสอบความผิดปกติของรถยนต์ไปด้วยนะครับ เช่น รอยรั่วของระบบต่างๆ (เบรก น่ากลัวที่สุด) สภาพยาง (ล้อที่มีร่องรอยของการเบียดกับฟุตบาทห้ามไว้ใจ) โคมไฟ (ถ้ามีรอยแตกร้าวให้สันนิฐานว่ามันจะไม่ติด) กระจก (กระจกข้างด้านซ้ายมันน่าจะใสกว่าบานอื่นๆนะ) อุปกรณ์ส่วนควบต่างๆ (แผ่นป้ายทะเบียนนี่แหละตัวดี) ทุกอย่างที่กล่าวมาและที่ท่านนึกขึ้นได้นะครับจะต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้เป็นอย่างดี รถกับร่างกายของเราก็ไม่ต่างกันเลยครับ คือมันจะเสื่อมสภาพลงไปทุกวันๆ อยู่ที่ว่าจะซ่อมได้หรือไม่ได้เท่านั้นเองครับ และเรามักจะให้ความสำคัญในเรื่องของความสะอาดของตัวรถก่อนที่จะให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยกันครับ


การที่เราเดินตรงไปที่รถเปิดประตูแล้วก็ขับรถออกไปเป็นเรื่องที่ส่วนใหญ่จะทำกันจนติดเป็นนิสัยไปแล้ว การที่จะมาปรับเปลี่ยนกันใหม่ก็คงจะต้องใช้เวลา แต่สำหรับในเรื่องของอุบัติเหตุแล้วมันมักจะไม่รอให้เราใช้เวลานะซิครับ ไม่มียกเว้นแม้สักเสี่ยวเวลาเลยนะครับ เพราะฉะนั้นนึกได้ตอนไหนก็ต้องทำกันตอนนั้นเลยครับ และถ้าทำได้แบบทุกวันทุกเวลาก่อนขับรถออกไปรับรองได้เลยครับว่า ไอ้เจ้าอุบัติเหตุ ณ จุดเริ่มต้นก่อนการขับรถออกถนน ไม่มีวันที่จะมาได้แอ้มเราเลยจริงมั้ยล่ะครับ walk around walk around walk around :)

Safety Trick Today!
Don’t panic if you overtake a foreign car and the driver is ‘asleep.’ If you look again the ‘passenger’ may have a steering wheel in front of them. :)

Safety Driving Training

บทความที่ได้รับความนิยม

ผู้ติดตาม