Following Distance ขับตามกันให้ดีๆ นะ
การขับรถแบบตามๆ กันไป บนท้องถนน
ไม่ว่าจะขับตามเขาหรือถูกเขาขับตาม บ่อยครั้งที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
แบบชนท้ายรถคันหน้า หรือรถคันหน้าถูกชนท้ายมีให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ
คำถามที่มักจะตามมาหลังจากเรื่องราวได้สงบหรือยุติลงไปแล้วก็คือ
ตกลงจะต้องขับตามหลังรถคันข้างหน้า และขับให้รถคันข้างหลังขับตาม จะต้องเว้นระยะสักแค่ไหนมันถึงจะปลอดภัย !
เรื่องราวแบบนี้ผู้มีประสบการณ์ตรงก็คงเข้าใจได้เป็นอย่างดี
แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่มีประสบกาณ์ตรงก็คงไม่ต้องไปลองหาประสบการณ์กันหรอกนะครับ
เพราะบทเรียนที่ได้มามันไม่คุ้มค่าเลยจริงๆ
การเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย
โดยเฉพาะสภาพทางกายภาพของถนนและสิ่งแวดล้อมในการจราจร คงจะต้องตระหนักและระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ
การป้องกันและหาทางออกให้กับตัวเองไว้ล่วงหน้าเสมอเป็นเทคนิคง่ายๆ ที่คนขับรถส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ทำนั่นก็คือ
การขับตามหลังรถคันข้างหน้า
ซึ่งระยะที่คิดว่าหยุดทันไม่เป็นไรเอาอยู่ของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน
ระยะหยุดของรถแต่ละคันก็ไม่เท่ากัน และถนนในแต่ละเส้นทางก็ไม่เหมือนกัน การขับตามหลังรถคันข้างหน้าจึงจำเป็นทีจะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจให้ถูกต้องโดยเฉพาะเรื่องของ
กฏ Following Distance ซึ่งเป็นกฎการทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าที่ได้มีการคำนวณระยะทางการหยุดรถไว้แล้วว่าปลอดภัยภายใต้เงื่อนไขที่มีองค์ประกอบพร้อม
ซึ่งจะใช้แบบ 2 Second Rule, 3 Second Rule, 4 Second Rule … ก็ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของรถและสภาพของถนน
และต้องไม่อยู่ในภายใต้สภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัยเช่น ถนนลื่น สภาพยางไม่ดี
คนขับไม่พร้อม (ง่วง ซึม มึน ไม่นับเมา เพราะเมาไม่ให้ขับครับ) ฯลฯ “มันยุ่งยากและก็เข้าใจยากเวลาขับจริงก็ทำได้ยาก”
อันนี้ก็คงต้องบอกว่าลองทำดูก่อนครับ แล้วปรับเปลี่ยนไปให้เหมาะสมกับสภาพการจราจรครับรับรองว่าผลที่ได้มันดีกว่าการหาจากประสบการณ์ตรงเยอะเลยครับ
หลักการก็แค่การสร้างจุดสังเกตข้างทางอะไรก็ได้ครับ (ต้นไม้ เสาไฟฟ้า ฯลฯ)
เมื่อรถคันหน้าขับผ่านจุดสังเกตที่กำหนดไว้ก็ให้เริ่มนับ หนึ่งพันหนึ่ง หนึ่งพันสอง หนึ่ง...
ถ้านับได้หนึ่งพันสองพอดี ก็แสดงว่าท่านกำลังขับตามรถคันหน้าอยู่ 2 วินาที
ถ้านับได้ถึงหนึ่งพันสามพอดี ก็แปลว่าท่านขับตามหลังรถคันหน้า 3 วินาที
ประมาณนี้ครับ เรื่องนี้เคยได้เขียนเอาไว้แล้วนะครับ แต่วันนี้ต้องขอเอามาทบทวนให้ทราบกันครับ
เนื่องจากจะเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมักจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่ค่อนข้างสูง
โดยเฉพาะอุบัติเหตุการชนท้ายรถคันข้างหน้า
ก็หวังว่าคงพอจะนำไปใช้กันได้นะครับ แต่ถ้ายังทำไม่ได้อย่างน้อยก็ขอให้หมั่นถามตัวเองเสมอๆ
ว่า “ถ้ารถคันข้างหน้าเขาหยุดเราจะหยุดทันมั้ย?
และถ้าเราหยุดล่ะ! รถคันข้างหลังเขาจะหยุดทันหรือเปล่า?” ถ้าเริ่มไม่แน่ใจก็ให้เผื่อระยะห่างเพิ่มเข้าไปครับ ขอให้สงกรานต์ปีนี้เป็นสงกรานต์แห่งความปลอดภัย
เดินทางไปและกลับโดยสวัสดิภาพครับ